กาวซีเมนต์ จระเข้ทอง (สำหรับโมเสกแก้ว)
สุดยอดกาวซีเมนต์ มั่นใจด้วยมาตรฐานสูงสุดจากอเมริกา ปูทับหลากหลายพื้นผิว
ปูได้หลากหลายวัสดุกรุผิว ภายใน-ภายนอกอาคาร
ปูกระเบื้องขนาดใหญ่มากทุกชนิด พื้นและผนังภายใน-ภายนอกอาคาร
ปูหินอ่อน หินแกรนิต หินธรรมชาติ เรซิ่น กระเบื้องแก้ว พื้นและผนัง
ปูทับได้ทั้ง กระเบื้อง ไม้อัดโครงสร้าง ไฟเบอร์ซีเมนต์
แรงยึดเกาะสูงพิเศษ ทนต่อแรงสั่นสะเทือน
กาวซีเมนต์จระเข้ทอง มีผงลาเท็กซ์ที่เพิ่มประสิทธิภาพของกาวซีเมนต์ให้ดีขึ้น มีส่วนผสมของปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ ทราย และเคมีผสมเพิ่มชนิดพิเศษอื่นๆ ทำให้ผลิตภัณฑ์มีคุณสมบัติที่ให้การยึดเกาะสูง มีการยืดหยุ่นที่ดี ทนทานในทุกสภาพภูมิอากาศ เหมาะสำหรับใช้ปูภายนอกอาคารโดยเฉพาะ ใช้ปูกระเบื้องเซรามิกทุกชนิด ปูหินอ่อน ปูแกรนิต ปูโมเสกแก้ว กระเบื้องแก้ว และใช้ปูทับกระเบื้องเดิม โดยไม่ต้องสกัดของเก่า ทั้งพื้นและผนังภายใน รวมทั้งสามารถใช้ปูบนพื้นผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นไฟเบอร์ซีเมนต์
.
การเตรียมพื้นผิว
พื้นผิวใหม่ : พื้นผิวที่ต้องการปูจะต้องแข็ง เรียบ ได้ระดับ แห้งและสะอาด ปราศจากฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน สิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และมีการดูดซึมน้ำปกติ หากพื้นผิวผนังปูนฉาบใหม่หรือปูนปรับระดับใหม่ ควรใช้เวลาบ่มตามมาตรฐาน 7 วันหรือ 168 ชั่วโมง ต่อความหนา 1 ซม.
พื้นผิวเดิม : ล้างทำความสะอาดพื้นผิวโดยใช้น้ำฉีด ขัดพื้นผิวให้สะอาด เพื่อขจัดคราบฝุ่น น้ำมัน น้ำยาบ่มคอนกรีต สี เศษปูน และสิ่งแปลกปลอมอื่น ๆ และกวาดน้ำที่ขังบนพื้นผิวให้หมดก่อนที่ใช้กาวซีเมนต์
กรณีปูทับกระเบื้องเดิม : ต้องตรวจสอบความสามารถในการยึดเกาะ ระหว่างกระเบื้องและผิวคอนกรีต หากความสามารถในการยึดเกาะต่ำจึงต้องสกัดกระเบื้องเดิมทิ้ง
.
อัตราส่วนผสม
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง 20 กก. (1 ถุง) ต่อ น้ำ 5.60 ลิตร
ตวงกาวซีเมนต์ จระเข้ทอง 2.7 ส่วน ต่อ น้ำ 1 ส่วน โดยปริมาตร
.
การผสม
เทปูนกาวซีเมนต์ลงในน้ำใช้เครื่องผสมรอบต่ำประมาณ 150 รอบต่อนาที (150 rpm) ช่วยในการผสมให้เข้ากัน
ทิ้งไว้เพื่อให้เคมีบ่มตัวประมาณ 15 นาที จึงกวนซ้ำอีกครั้งก่อนนำมาใช้งาน อย่าเติมน้ำหรือกาวซีเมนต์ลงไปเพิ่มหลังจากที่ทิ้งไว้จนเคมีบ่มตัวแล้ว
.
การใช้งาน
ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ลงบนพื้นหรือผนังที่ต้องการปูกระเบื้องให้ทั่ว และเพียงพอสำหรับกระเบื้องที่จะใช้ปูแต่ละครั้ง
ใช้ด้านหวีปาดกาวซีเมนต์ให้เป็นร่อง โดยจับเกรียงหวีให้ได้มุมประมาณ 60 องศา และครูดให้เป็นรอยทางในทิศทางแนวเดียวกับด้านสั้นของกระเบื้อง (ใช้เกรียงหวีให้เหมาะกับขนาดกระเบื้อง)
ใช้เกรียงหวีด้านเรียบปาดกาวซีเมนต์ไล้หลังกระเบื้อง เพื่อชดเชยความโก่ง หรือบิดตัวของกระเบื้องและให้มั่นใจว่าปูนกาวอยู่เต็มหลังกระเบื้อง ป้องกันการเกิดโพรงอากาศทำให้กระเบื้องที่ปูสามารถรับแรงกดอัดได้เต็มที่ ไม่แตก ล่อนในภายหลัง
นำกระเบื้องปูบนกาวซีเมนต์ สไลด์แผ่นกระเบื้องไปทางขวางในทิศทางตั้งฉากกับแนวของเกรียงหวีที่ครูด เคาะกระเบื้องให้ติดแน่นกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น
สามารถจัดกระเบื้องแต่ละแผ่นให้ตรงแนวตามต้องการภายในเวลาไม่เกิน 30 นาที ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิขณะทำงาน และไม่ควรจัดหรือเคาะกระเบื้องอีกเมื่อเลยเวลาดังกล่าว เมื่อกดกระเบื้องลงบนกาวซีเมนต์ ควรแน่ใจว่าหลังกระเบื้องสัมผัสกับกาวซีเมนต์เต็มทั่วทั้งแผ่น ซึ่งความหนาของกาวซีเมนต์ที่ปาดลงบบนพื้นผิวควรจะอยู่ระหว่าง 2-10 มม.
การบ่มและการยาแนวกระเบื้อง
หลังจากปูกระเบื้องเสร็จแล้ว ควรบ่มทิ้งไว้ประมาณ 24-48 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับอุณหภูมิแล้วจึงยาแนวกระเบื้อง เพื่อให้ได้งานที่มีคุณภาพสูงสุด ควรเลือกกาวยาวแนวจระเข้ให้เหมาะสมกับใช้ตามลักษณะของร่องและลักษณะของสถานที่
.
ข้อเสนอแนะ
เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ควรยาแนวกระเบื้องหลังจากปูกระเบื้องไปแล้วไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการยึดเกาะ ควรใช้กาวซีเมนต์จระเข้ ไล้หลังกระเบื้องให้ทั่วแผ่น
ข้อจำกัดในการใช้
สามารถใช้ปูบนพื้นผิวไม้อัดโครงสร้าง แผ่นซีเมนต์ไม้อัดต้องมีความหนาอย่างน้อย 19 มม. และมีการติดตั้งที่แข็งแรง ไม่โก่งงอ
**หากต้องการปูพื้นผิวของวัสดุที่นอกเหนือจากที่ระบุไว้สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากทางบริษัทฯ
.
ข้อควรระวัง
ผลิตภัณฑ์อาจทำให้เกิดผิวหนังระคายเคือง ควรใช้อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยต่างๆ เช่น ถุงมือ หน้ากากกันฝุ่น แว่นตา ฯลฯ
ในกรณีเข้าตาให้ล้างนัยน์ตาด้วยน้ำสะอาดหลายๆครั้งทันที และรีบปรึกษาแพทย์
ถ้าถูกหรือสัมผัสกับผิวหน้าให้ใช้น้ำและสบู่ล้างทำความสะอาด
ควรเก็บให้พ้นมือเด็ก
ห้ามรับประทาน
.
การเก็บรักษา
ควรเก็บไว้ในที่ร่ม แห้ง ปราศจากความชื้น และมีอากาศถ่ายเท อุณหภูมิไม่สูงจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อม
อายุของผลิตภัณฑ์ 1 ปีนับจากวันที่ผลิตในสภาพยังไม่เปิดถุงใช้