หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ โรงงาน ร้านอาหาร หรือแม้แต่บ้านพักที่มีการใช้ไฟฟ้าหนักๆ ในแต่ละวัน แล้วพบว่าไฟตก อุปกรณ์ไฟฟ้าทำงานไม่เต็มที่ หรือค่าไฟฟ้าผันผวนไม่สมเหตุสมผล… อาจถึงเวลาที่คุณต้องเริ่มทำความรู้จักกับคำว่า “ไฟ 3 เฟส” และเข้าใจ ขั้นตอนการขอไฟเพิ่ม ให้เหมาะกับความต้องการของคุณแล้ว
บทความนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับระบบไฟฟ้า 3 เฟส แบบเข้าใจง่าย ไม่ต้องเป็นวิศวกรก็อ่านรู้เรื่อง พร้อมอธิบายทีละขั้นตอนว่าถ้าอยาก “ขอไฟเพิ่ม” ต้องทำอย่างไร ต้องเตรียมเอกสารอะไร เจอค่าใช้จ่ายเท่าไหร่บ้าง และควรวางแผนยังไงให้คุ้มที่สุดในระยะยาว
ไฟ 3 เฟส คืออะไร? ทำไมธุรกิจจำนวนมากถึงต้องใช้?
ก่อนจะไปดูขั้นตอนการขอไฟเพิ่ม เรามาทำความเข้าใจระบบไฟฟ้าแบบ “3 เฟส” (Three-phase) กันก่อน
🔌 ระบบไฟฟ้ามีกี่แบบ?
โดยทั่วไปในประเทศไทยมีการใช้ไฟฟ้าอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ
- ไฟฟ้า 1 เฟส (Single Phase)
- ใช้ในบ้านทั่วไป
- มีสายไฟ 2 เส้น: สายเฟส (สายไฟ) + สายนิวทรัล
- กระแสสูงสุดไม่เกิน 15-30 แอมป์
- ใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เช่น ตู้เย็น ทีวี เครื่องปรับอากาศ
- ไฟฟ้า 3 เฟส (Three Phase)
- ใช้ในโรงงาน ธุรกิจ อาคารสำนักงาน หรือบ้านที่ใช้ไฟเยอะ
- มีสายไฟ 4 เส้น: 3 เฟส + 1 นิวทรัล
- กระแสไฟนิ่งกว่า รับโหลดได้เยอะกว่า
- เหมาะกับเครื่องจักร หรืออุปกรณ์ที่ใช้ไฟสูง เช่น เครื่องอัดลม มอเตอร์ขนาดใหญ่
💡 ไฟ 3 เฟสดีกว่ายังไง?
- รับโหลดได้มากขึ้น → ใช้เครื่องจักรหลายตัวพร้อมกันได้
- ไฟไม่ตกแม้เปิดพร้อมกันหลายเครื่อง
- ประหยัดค่าไฟในระยะยาว เพราะโหลดกระจายดีกว่า
- เสถียรกว่าไฟ 1 เฟส → ช่วยยืดอายุอุปกรณ์ไฟฟ้า
ดังนั้น หากคุณมีแผนจะขยายกิจการ ติดตั้งเครื่องจักรเพิ่ม หรือลูกบ้านในโครงการใช้ไฟเกินขีดจำกัด การเปลี่ยนเป็นไฟ 3 เฟส หรือขอเพิ่มขนาดหม้อแปลง ก็อาจเป็นสิ่งที่จำเป็น
ใครบ้างที่ควรใช้ไฟ 3 เฟส?
- โรงงานอุตสาหกรรมขนาดเล็ก–กลาง
- อาคารสำนักงานที่ใช้ระบบแอร์กลาง
- ร้านอาหารขนาดใหญ่ หรือ Cloud Kitchen
- คอนโด/อพาร์ตเมนต์ที่มีหลายยูนิต
- บ้านพักที่มีระบบโซลาร์เซลล์หรือ Smart Home ใช้งานไฟสูง
ขั้นตอนการขอไฟเพิ่ม (เปลี่ยนจาก 1 เฟส เป็น 3 เฟส)
มาถึงส่วนสำคัญที่สุดของบทความ นั่นก็คือ “ขั้นตอนการขอไฟเพิ่ม” หรือการขอเปลี่ยนระบบไฟจาก 1 เฟส เป็น 3 เฟส สำหรับใช้งานจริง
✅ ขั้นตอนที่ 1: ตรวจสอบกับการไฟฟ้าในพื้นที่
เริ่มต้นด้วยการติดต่อ การไฟฟ้านครหลวง (MEA) หรือ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) ในเขตพื้นที่ของคุณเพื่อสอบถามว่า
- พื้นที่ของคุณสามารถขอเปลี่ยนเป็นไฟ 3 เฟสได้ไหม
- มีหม้อแปลงรองรับหรือไม่
- ต้องมีการเดินสายใหม่หรือไม่
📌 แนะนำให้ถ่ายแปลนบ้าน/อาคาร และรายการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ไปให้เจ้าหน้าที่ประเมินคร่าวๆ
✅ ขั้นตอนที่ 2: เตรียมเอกสารประกอบการขอไฟเพิ่ม
โดยทั่วไปจะต้องใช้เอกสารเหล่านี้:
- สำเนาบัตรประชาชน/หนังสือรับรองบริษัท
- เอกสารแสดงกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ (เช่น โฉนด หรือสัญญาเช่า)
- แผนผังตำแหน่งมิเตอร์
- แบบแปลนระบบไฟฟ้า (Electrical Layout)
- แบบรายการอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้
คำแนะนำ: หากมีวิศวกรไฟฟ้าช่วยเซ็นรับรองแบบ จะช่วยให้ขออนุมัติง่ายขึ้น
✅ ขั้นตอนที่ 3: เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบหน้างาน
หลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อย การไฟฟ้าจะส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจพื้นที่จริง
- ประเมินว่าต้องเพิ่มหม้อแปลงหรือไม่
- ตรวจสอบว่าเสาไฟฟ้าและระบบรองรับไฟ 3 เฟสได้หรือเปล่า
- หากไม่พร้อม อาจต้องมีการขออนุมัติวางเสาใหม่หรือเพิ่มอุปกรณ์
✅ ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าใช้จ่าย
ค่าใช้จ่ายในการขอไฟเพิ่มขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น:
- ขนาดหม้อแปลงที่ต้องติดตั้ง
- ระยะทางจากหม้อแปลงถึงอาคาร
- ค่าเดินสายไฟ
- ค่าแรงติดตั้ง
- ค่าเปลี่ยนมิเตอร์จาก 1 เฟส เป็น 3 เฟส
ราคาโดยประมาณ:
- เริ่มต้นตั้งแต่ 10,000 – 200,000 บาท (หรือมากกว่านั้นสำหรับโรงงาน/โครงการขนาดใหญ่)
✅ ขั้นตอนที่ 5: ติดตั้งอุปกรณ์และตรวจสอบระบบ
หลังจากชำระเงิน การไฟฟ้าจะดำเนินการ:
- ติดตั้งหม้อแปลง/อุปกรณ์เสริม
- เปลี่ยนมิเตอร์
- ทดสอบระบบ
- เซ็นรับรองจากวิศวกร (ถ้ามี)
✅ ขั้นตอนที่ 6: เปิดใช้งานระบบไฟฟ้า 3 เฟส
เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย การไฟฟ้าจะทำการเปิดระบบไฟฟ้าใหม่ให้คุณใช้งานได้ทันทีอย่างปลอดภัย
สิ่งที่ควรระวังก่อนขอไฟเพิ่ม
- ตรวจสอบภายในบ้านหรืออาคารว่า ระบบสายไฟรองรับไฟ 3 เฟสได้หรือไม่ (ควรให้วิศวกรตรวจสอบ)
- อย่าลืมวางแผนระยะยาว หากมีแนวโน้มใช้งานไฟเพิ่มอีกในอนาคต ควรขอขนาดหม้อแปลงที่เผื่อไว้เล็กน้อย
- ควรทำระบบกราวด์ (Grounding) ที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย
- ค่าใช้จ่ายมักไม่ตายตัว ควรสอบถามราคาโดยตรงจากการไฟฟ้าในพื้นที่
- ถ้ามีการแชร์มิเตอร์กับหลายห้อง ควรแยกมิเตอร์ให้ชัดเจน
สรุป: ไฟ 3 เฟส และการขอไฟเพิ่ม ไม่ใช่เรื่องยาก แค่ต้องรู้ให้ถูกจุด
ไฟ 3 เฟสคือคำตอบสำหรับคนที่ต้องการระบบไฟฟ้าที่ “เสถียร รับโหลดหนัก และไม่สะดุด” โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง–ใหญ่ หรือบ้านที่ต้องการใช้ไฟฟ้าเยอะอย่างปลอดภัย
ขั้นตอนการขอไฟเพิ่มไม่ซับซ้อน เพียงแค่คุณ:
- ประเมินการใช้งานจริง
- เตรียมเอกสารให้พร้อม
- ปรึกษาการไฟฟ้าอย่างตรงไปตรงมา
- มีช่างไฟหรือวิศวกรที่เชี่ยวชาญคอยช่วย
ทั้งหมดนี้ จะช่วยให้คุณ “ขอไฟเพิ่ม” ได้อย่างถูกต้อง ประหยัด และปลอดภัยในระยะยาว