การตรวจหาข้อบกพร่องหรือ Defects มีความสำคัญด้วยหลายเหตุผล:
- รับประกันคุณภาพ: การตรวจจับ Defects ช่วยให้แน่ใจว่าผลิตภัณฑ์หรือบริการมีคุณภาพสูงสุด และตรงตามความคาดหวังหรือข้อกำหนดของลูกค้าหรือมาตรฐานอุตสาหกรรม.
- ป้องกันความเสียหายและอุบัติเหตุ: การพบ Defects ที่อาจทำให้เกิดความเสียหายหรืออันตราย ช่วยลดความเสี่ยงต่อผู้ใช้งานและทรัพย์สิน.
- ควบคุมต้นทุน: การแก้ไขข้อบกพร่องที่ตรวจพบในขั้นตอนแรกๆ ของกระบวนการผลิตหรือการให้บริการสามารถช่วยลดต้นทุนในการแก้ไขปัญหาที่ใหญ่ขึ้นในภายหลัง.
- ความพึงพอใจของลูกค้า: ลูกค้ามักมีความพึงพอใจสูงเมื่อได้รับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ปราศจากข้อบกพร่อง ซึ่งส่งผลดีต่อการรักษาลูกค้าเก่าและดึงดูดลูกค้าใหม่.
- ปฏิบัติตามมาตรฐานและข้อกฎหมาย: ในบางอุตสาหกรรม การตรวจจับข้อบกพร่องเป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามมาตรฐานคุณภาพและข้อกำหนดทางกฎหมาย.
- การปรับปรุงและพัฒนา: ข้อมูลที่ได้จากการตรวจ Defects สามารถใช้เพื่อปรับปรุงกระบวนการผลิตหรือพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการในอนาคต.
- เป็นการตรวจสอบว่าบ้านอยู่ในสภาพดี ก่อนที่จะโอนกรรมสิทธิ์และจ่ายเงินค่าบ้านจำนวนเต็ม ผู้ซื้อควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าบ้านอยู่ในสภาพดี ไม่มี Defect หรือ ปัญหาใด ๆ ที่จะสร้างความเสียหายหรือความยุ่งยากในอนาคต
- คุ้มครองเงินลงทุน บ้านเป็นการลงทุนที่มีมูลค่าสูง การตรวจ Defect จะช่วยป้องกันไม่ให้ผู้ซื้อต้องเสียเงินซ่อมแซมบ้านใหม่หลังจากเข้าอยู่
- ป้องกันปัญหาในอนาคต Defect หลาย ๆ อย่างอาจจะดูเล็กน้อย แต่หากปล่อยไว้ไม่แก้ไข อาจจะพัฒนาเป็นปัญหาใหญ่ที่ยากและยุ่งยากในการแก้ไขในอนาคต
- เป็นสิทธิ์ของผู้ซื้อ ตามสัญญาซื้อขายบ้าน ผู้ซื้อมีสิทธิ์ที่จะตรวจสอบบ้านก่อนโอนกรรมสิทธิ์ และ ผู้ขายมีหน้าที่ต้องส่งมอบบ้านที่อยู่ในสภาพดี
- ช่วยให้มั่นใจก่อนเข้าอยู่ การตรวจ Defect ช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจว่าบ้านที่ซื้อนั้นปลอดภัยและพร้อมสำหรับการเข้าอยู่
การตรวจหาข้อบกพร่องจึงเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยรักษาและเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์และบริการ และเป็นส่วนสำคัญของการบริหารคุณภาพ.